เช็ครายการสินค้าก่อนสั่งซื้อ

วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

หิมะตกตามวัน และเวลา ของคำพยากรณ์อากาศเมกา

บริเวณหน้าบ้าน Darling ค่ะ Darling ตื่นมาตี 4 ครึ่ง รีบอาบน้ำจะออกไปทำงาน ปรากฎว่า ออกไปทำงานไม่ได้โทรกลับมาบอกเราว่าหิมะกำลังตกเยอะมาก ขืนขับรถออกไปตอนนี้อันตรายแน่นอน ต้องรอให้หิมะหยุดตกก่อน และรอให้ตำรวจมากวาดหิมะออกจากถนน ถนนจะได้ไม่ลื่น


ดูรถ Darling สิ ต้องกวาดหิมะออกก่อนน๊า.. ความที่ Darling เป็นคนขยันทำงาน ไม่อยากหยุดงานอ่ะ(เก็บวันหยุดกลับมาเมืองไทยดีกว่า) แต่เราก้อบอก Darling ว่าวันนี้หยุดซักวันนึงเถอะ เพราะหิมะตกหนามาก...ความดื้อรั้นน่ะ จะไปทำงานให้ได้ บอกกะเราว่าไม่เป็นไรหรอก เขากำลังกวาดถนนให้ พอเขากวาดถนนเสร็จ ขับรถออกไปทำงานเลย ระหว่างขับรถออกไปหิมะตกอยู่เรื่อย ๆ และบนถนนบางช่วงเขากวาดแล้วแต่หิมะยังคงตกลงมาตลอด.. ถนนลื่นละสิทีนี้ รถไถลไปลงข้างทางเบรคไม่อยู่ เดือดร้อนถึงตำรวจ ต้องให้รถตำรวจยกขึ้นมา แล้วขับต่อไป...พอขับไปไม่ถึง 10 นาที รถไถลลงข้างทางอีกแล้ว เกือบจะถึงที่ทำงานอยู่แล้วเชียว รถตำรวจต้องมาช่วยกันยกรถขึ้นมาอีก ...โทรกลับมา " น้อง น้อง พี่กลับบ้านดีกว่าเนอะ รถลงข้างทาง 2 ครั้งแล้ว ไม่อยากมีครั้งที่ 3 อีกอ่ะ" เป็นงัยล่ะค่ะ ความดื้อรั้นน่ะ

วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ด้วยน้ำพักน้ำแรง

เป็นสินทรัพย์ชิ้นแรกในชีวิตค่ะ ที่เราซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของเราเอง ภาคภูมิใจเหลือเกิน.. ซื้อเมื่อ 15 มค.2548
17 กพ. 53 เริ่มถมที่

บนทางหลวงหมายเลข12 ไปจ.ตาก ลำปาง เชียงใหม่..แมคโครกำลังโค่นต้นมะพร้าวอยู่ท้ายที่หนึ่งต้น


ใกล้มืดแล้ว วันนี้คงถมแค่นี้ก่อน

18 กพ.53 เป็นวันที่ 2
ใช้ดินเยอะมาก เพราะว่าต้องถมให้สูงกว่าถนนค่ะ (ความสูงที่ถมลงไปท่วมหัวเลย)

เกือบเต็มแล้ว


19 กพ.53 เป็นวันที่ 3
ปรับหน้าดินให้เสมอกันค่ะ


พอถมดินเสร็จปุ๊บ มีคนมาถามขอซื้อเลยอ่ะ..ยังค่ะ ยังไม่ขาย ขอเวลาอีกซักระยะนึง(รอให้ราคาแพงกว่านี้อีกนีสนึง หุหุ) สรุปแล้วใช้ดินถมที่แห่งนี้เกือบร้อยเที่ยวเลย

วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

trip to : หนองคาย และลาว


นั่งรถทัวร์ออกจากพิมาย(โคราช) 11โมงเช้า ถึงหนองคาย ทุ่มกว่า (ถึงช้าเพราะว่าเสียเวลาที่ต้องรอรถทัวร์ต่อจากอุดรมาหนองคาย) แล้วนั่งรถเครื่องสามล้อไปที่โรงแรมพรรณทวี ซึ่งอยู่ไม่ไกลท่าเสด็จค่ะ

ขอนอนพักให้หายเมื่อยซัก 10 นาทีน่ะค่ะ แล้วค่อยเดินออกไปหาอะไรกินกัน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของDarling เก็บกระเป๋าเดินทางและของใช้อื่นๆ ให้เรียบร้อย อิอิ น่ารักจัง..(เราไม่ได้ถืออะไรเลย Darling ทั้งหิ้ว ทั้งแบก ทั้งลากกระเป๋าเดินทางซะคนเดียว)

มุมพักผ่อนภายในบริเวณโรงแรมค่ะ
มีสระว่ายน้ำให้ด้วย ออกมาว่ายน้ำกันตอนเย็นค่ะ

เจ้าของโรงแรมชอบสะสมของเก่าค่ะ

รุ่งเช้า...ทานอาหารเช้าที่โรงแรมก่อนออกเดินทางไปลาวค่ะ

นั่งรถเครื่องสามล้อไปที่ด่านตม.ค่ะ

ก่อนจะข้ามไปเวียงจันทน์ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของไทยก่อน ตอนนี้ขอเข้าไปยื่นพาสปอร์ตและทำเอกสารผ่านจากประเทศไทยก่อนนะค่ะ แล้วรอขึ้นรถบัสที่จะพาข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ค่ารถ คนละ 15 บาทค่ะ


ถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองลาวค่ะ ต้องเข้าคิวเสียค่าผ่านด่าน ตม.ลาว รอนานหน่อยค่ะคนเยอะมาก อ๋อ! เขามีบริการเขียนใบผ่านด่าน เรียกเก็บคนละ 40 บาท เป็นเอกสารเพื่อที่จะใช้แนบกับพาสปอร์ต ถ้าใช้พาสปอร์ตเราสามารถอยู่ในประเทศเขาได้ถึงหนึ่งเดือน ถ้าใครไม่มีพาสปอร์ต ก้อสามารถใช้สำเนาบัตรประชาชน ได้ แต่รายละเอียดลองหาอ่านจากเวปอื่นก้อได้ค่ะ เพราะไม่แน่ใจว่าใช้เอกสารอะไรบ้าง เพื่อยื่นผ่านด่านตม.ทั้งไทยและลาว

เที่ยวลาวช่วงซีเกมส์พอดี(ไม่คิดว่าทุกอย่างจะแพงขนาดนี้ รถรับจ้างขึ้นราคาเป็น3เท่าตัว โรงแรมถือโอกาสขึ้นราคาห้องพัก ค่าอาหารแพงหูฉี่...ถ้ารู้ไม่เที่ยวลาวช่วงซีเกมส์แน่นอน..พ่อค้าแม่ค้าถือโอกาสขึ้นราคาสินค้า ขายแพงขึ้น 3-5 เท่าตัวกันเลยทีเดียว(ไม่มีเวลาดูข่าวคราว นึกอยากจะไปเที่ยวก้อออกเดินทางไปกันเลย รู้ว่าลาวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ก้อตอนหาโรงแรมที่พักนี่แหละ เพราะส่วนใหญ่เกือบทุกโรงแรมห้องพักจะเต็ม เขาบอกว่ามาตรงกับช่วงซีเกมส์ที่ลาว นักกีฬาไทย, โค้ทของนักกีฬา เพื่อนฝูงนักกีฬา ญาติพี่น้องนักกีฬา มาเชียร์ มาเที่ยว มาพักกัน โรงแรมในจ.หนองคายก้อถือโอกาสขึ้นราคาห้องพักเหมือนกัน จากเดิม 700 บาท/คืน ปรับขึ้นมา 1,200 บาท/คืน)

เช่ารถเที่ยวนครเวียงจันทน์กันค่ะ


สะบายดีเวียงจันทน์...กราบนมัสการพระธาตุหลวง ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า สวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุดในลาว

จ่ายค่าธรรมเนียมก่อนเข้าไปนมัสการพระธาติหลวง คนละ 5,000 กีบ ( 20 บาทค่ะ...250 กีบ = 1 บาท) มีโปสเตอร์หัดอ่าน หัดเขียนภาษาลาวจำหน่ายที่นี่ด้วย

อนุสาวรีย์ประตูชัย ตั้งตระหง่าน สวยงามมากค่ะ




เดินช็อปปิ้งตลาดเช้าค่ะ


ตุ๊กตาจาไมก้า..ได้ยินเสียงตบมือไม่ได้ เต้นไม่เหนื่อยเลย

แวะเล่นหวยลาวก่อนนะ อิอิ เกือบถูกรางวัลที่ 2

หวยขูด ใบละ 5,000 กีบ มี 5 รางวัลค่ะ


ในมือ Darling ไม้สีขาวท่อนยาว ๆ นี่ คือ ข้าวหลามลาวค่ะ กระบอกเล็ก กระจิ๋วเนี่ย แต่คุณภาพเยี่ยมค่ะ อร่อย (ปลอกกินกันไม่ได้ เลยให้แม่ค้าขายเครื่องเงิน ช่วยปลอกให้ค่ะ ขอบคุณหลาย หลาย เด้อ ไม่งั้นอดกินแน่นอน)

ช็อปปิ้งที่ตลาดเช้าเสร็จ..เดินเที่ยวต่อค่ะ(Darlingน่ารักค่ะ แบกของให้ทั้งหมดเลยอ่ะ)



ป้ายรถเมล์ค่ะ... นั่งรอนานล่ะ ไม่เห็นมีมาซักกะคันเลย

เที่ยวลาวแบบ easy going ลุยลุยค่ะ บ่าย 3 โมงเย็นไม่เช่ารถล่ะ..กะว่าก่อนที่จะเดินทางกลับหนองคายขอเดินเที่ยวชมบรรยากาศเวียงจันทน์อีกซักรอบนึงเถอะ แต่บังเอิญเจอน้องคนไทยชวนไปเชียร์นักกีฬาไทย 6โมงเย็นมีแข่งขันตระกร้อชิงเหรียญทองทั้งทีมชายและทีมหญิง เอาละสิ...ต้องหาที่พักในลาวแน่นอนเพราะกลับมาโรงแรมที่หนองคายไม่ทันอยู่แล้ว.. หาโรงแรมที่ลาวพักซักคืนก้อดีเหมือนกัน ช่วยกันหาโรงแรมกะน้องเค้า ตกลงเราพักกันที่คำวงสา


check in ก่อนค่ะ แล้วเราค่อยไปเดินทางไปสนามกีฬากัน




ถึงแล้วสนามกีฬาแข่งขันตระกร้อ...มาให้กำลังใจนักกีฬาไทยกันหน่อยเร้ว

ซื้อบัตรเข้าชมตระกร้อ แต่ไหงเอาบัตรเข้าชมเทนนิสมาให้ล่ะเนี่ย ..พอสอบถามกลับไป.. ได้ความว่า บัตรเข้าชมกีฬาทุกประเภทใช้แทนกันได้หมด อ้าวซะงั้น... บัตรเข้าชมใบละ 30,000 กีบ= 120 บาท ค่ะ


สัญญลักษณ์ซีเกมส์ลาวเป็นเจ้าภาพ...ช้างจำปาจำปีค่ะ

แข่งเวลา 6 โมงเย็นแน่ะ อ้าวนี่เพิ่ง 4 กว่าๆ เอง ระหว่างรอเชียร์นักกีฬาไทย...ไปโยนโบว์ลิ่งกันก่อนดีกว่าเนอะ..ค่าเช่าเกิบ เอ้ย! ค่าเช่ารองเท้า 1,000 กีบ ค่ะ

ได้เวลาแข่งขันตระกร้อแล้วค่ะ..บรรดากองเชียร์ไทยคึกคักเต็มอัฒจรรย์..แต่เอแล้วเราจะนั่งตรงไหนล่ะเนี่ย ที่นั่งเต็มหมดเลย ปรากฎว่าได้มานั่งตรงฝั่งลาวเชียร์ค่ะ(มีไทยอยู่ 2 คน ที่นั่งเชียร์ปะปนอยู่กับลาว) เกือบจะโดนยำซะแล้ว เชียร์ไทยดังไปหน่อย หุหุ

ตระกร้อหญิงเริ่มแข่งก่อนค่ะ ชิงเหรียญทองกับเวียดนามค่ะ

ดูกองเชียร์ของไทยค่ะ.. ส่วนเราสองคนแทรกอยู่ในหมู่กองเชียร์ลาวค่ะ แล้วตะโกน "ไทยสู้สู้" ดังซะลั่นเลย โชคดีที่ไม่โดนลุมตืบอยู่ตรงนั้น กองเชียร์ลาวเขาจะเชียร์ให้เวียดนามค่ะ...ไทยเฮ...ธงไทยขึ้นสู่ยอดเสาได้เหรียญทองค่ะ

ดูการแข่งขันของทีมชายกันบ้าง ไทยแข่งกับเจ้าภาพค่ะ(หวาดเสียวจริงจริง)

ช่อง 7 สี รายงานสด สด จากขอบสนามค่ะ ...ช้างจำปา จำปี ออกมาให้กำลังใจนักกีฬาลาวถึงขอบสนามด้วยเช่นกัน

ได้ออกทีวีลาวด้วย จะมีผู้ได๋ฮู้จักเฮาบ่...กองทัพนักข่าวกีฬาค่ะ

ทีมตระกร้อชายได้เหรียญทองอีกแล้ว...แต่เอ...กองเชียร์ไทยจะขาดคนนี้ไม่ได้เลยนะเนี่ย เป็นกำลังใจให้นักกีฬาไทยอย่างดีเยี่ยม

ขอชมมารยาทนักกีฬาไทยเราหน่อยเนอะ เดินยกมือไหว้ขอบคุณคนไทยทุกคนที่เข้ามาเชียร์และให้กำลังใจถึงขอบสนาม

มัวแต่พูดคุย ชื่นชม แสดงความยินดีกะนักกีฬาไทยเรา ปาเข้าไปทุ่มกว่าแล้ว


อ้าว..น้องคนไทยที่มาด้วยกันรออยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย หลงกันซะแล้ว.. เพราะเรานั่งเชียร์กันคนละทิศละทาง พอจบเกมส์ คนเยอะค่ะ เลยหากันไม่เจอ...ทำงัยกันดีล่ะ ชื่อโรงแรมที่พักเราก้อจำไม่ได้ นามบัตรของโรงแรมก้ออยู่กับน้องเค้าอีก เอาล่ะสิ..ออกมานั่งรอน้องเค้าข้างนอกตรงประตูทางออกประมาณครึ่งชั่วโมง ก้อไม่มีวี่แววว่าจะเจอ คนอื่นๆ ทะยอยกลับกันเกือบหมด เหลือแต่นักกีฬาบางส่วนเท่านั้น ที่รอรถมารับกลับที่พัก...อ้อ! นึกออกแล้ว เราถ่ายรูปโรงแรมเขาไว้นี่นา.. เปิดดูในกล้องแล้วเราค่อยถามตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ ที่อยู่ดูแล ในบริเวณนี้ก้อได้..เราอ่านภาษาลาวไม่ออกอ่ะ ใช้อ่านภาษาอังกฤษแทนเอา..แล้วเราค่อยบอกรถเครื่องสามล้ออีกทีว่าเราจะไปที่โรงแรมนั้น...เปิดกล้องเพื่อดูรูปโรงแรมที่เราจะไปพัก ยังหารูปนั้นไม่เจอเลย แบตเตอรี่กล้องถ่ายรูปหมดอีก...เวงกำละตู...นี่ขนาดซื้อแบตเตอรี่เผื่อไว้ตั้ง 3 ก้อนนะ ถ่ายรูปซะไม่บันยะบันยังเลย..เดือดร้อนต้องขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เขาอีกล่ะ..รบกวนขอชาร์ตแบตเตอรี่กล้องถ่ายรูปอ่ะค่ะซัก 15 นาที (ดีน๊าที่มีแท่นชาร์ตแบตไปด้วยDarlingเขาเป็นคนรอบคอบ เอาติดมาด้วย) ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ พูดคุยดีมากค่ะ เป็นห่วงเราซะอีกกลัวกลับโรงแรมไม่ถูก เพราะไกลมาก จากสนามกีฬาถึงโรงแรมนั่งรถเครื่องสามล้อประมาณ 30-40 นาที...เอาล่ะชาร์ตแค่พอเปิดกล้องหารูปให้เจอแค่นั้นพอ....เย้!!! หาเจอแล้ว เราพักกันที่โรงแรมคำวงสา...ขอบคุณเจ้าหน้าที่มากค่ะ...Darling Let's go.
กำลังต่อรองราคาค่ารถเพื่อกลับโรงแรม...เจ้าหน้าที่หญิงวิ่งต๊อกต๊อก กระหืดกระหอบ ตรงมาหาเรา แล้วยื่นถุงพลาสติกใบใหญ่ให้ อ้าว!เราลืมเจ้าจำปีจำปาไว้ตรงที่เรานั่งรอชาร์ตแบตกล้อง อุตส่าห์ซื้อกลับมาเพื่อเป็นที่ระลึก...ขอบคุณเจ้าหน้าที่ลาว หลาย หลาย เด้อ มีน้ำใจดีจริงจริง
พอถึงโรงแรมนั่งพักให้หายเหนื่อยแปปนึง ออกไปเดินเที่ยวถนนคนเดินริมแม่น้ำโขงซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเท่าไหร่ มีพ่อค้าแม่ค้ามานั่งขายของทั้งของเก่า(เหมาะสำหรับคนที่ชอบสะสมของเก่า เช่น อุปกรณ์สูบฝิ่นและบ้องกัญชา อย่างที่เห็นในรูป ทำจากงาช้างและเซรามิก) และของใหม่ปะปนกัน น่าซื้อทั้งนั้นเลย (ต่อรองราคากันเองน่ะ)

มีนักท่องเที่ยวมาเดินเลือกซื้อของกันเยอะเหมือนกัน

บรรยากาศยามค่ำคืน

กลับจากเดินช็อปปิ้งบนถนนคนเดิน... แวะหาไรกินก่อน บริเวณหาดริมแม่น้ำโขง เสียดายที่แบตเตอรี่กล้องหมด ไม่มีรูปถ่ายบรรยากาศนี้มาให้ดู.. ปูเสื่อนั่งกินค่ะ สั่งอาหาร 3 อย่าง คือ ส้มตำ, กุ้งเผา และแจ่วฮ้อน น้ำดื่ม 1 ขวด น้ำมะพร้าว 1 แก้ว มื้อนี้กินอาหารที่แสนแพงที่สุด 170,000 กีบ = 700 บาท (อาหารไม่อร่อยซักอย่าง กินกันนิดหน่อย เสียดายตังค์ว่ะ) เป็นช่วงซีเกมส์ที่แม่ค้าถือโอกาสขายแพงมั๊กมั๊ก กลับไปกินอาหารที่โรงแรมยังดีซะกว่าอีก แล้วที่นี่(ริมโขง) ไม่มีห้องน้ำ ผู้ชายที่เขานั่งดื่มเบียร์ดื่มเหล้า ..ลงไปยืนแอ่นฉี่กันให้เห็นจะจะซะงั้น หุหุ! นั่งนานไม่ได้แล้ว Darling ต้องชวนให้รีบกลับค่ะ บรรยากาศไม่ดีซะแล้ว
รุ่งเช้าเตรียมตัวกลับหนองคาย
นั่งรถเครื่องสามล้อจากโรงแรมมาที่บขส. แล้วขึ้นรถสองแถวเล็กมาที่ตม. เข้าไปเดินช็อปปิ้งที่ดิวตี้ฟรี ค่ะ ซื้อเบียร์ลาว ไวน์ ชา และกาแฟ หอบหิ้วกันอีกเพียบ

แหวนเงิน..Darling เห็นแล้วสะดุดตาค่ะ ซื้อให้..ดีไซด์แปลกดี ชอบ ชอบ ส่วนกำไลวงเล็กน่ะ เห็นแม่ค้าใส่อยู่ Darling ขอซื้อเลยอ่ะ...ขอบคุณมากค่ะDarling

ซื้ออมยิ้มมากินกันด้วยเนอะ

ขอเข้าห้องน้ำก่อนน่ะ..นั่งอยู่ในห้องน้ำนานไปหน่อยเพราะตาเจ้ากำเหลิบไปเห็นป้ายนี้เข้า อ่านข้อห้ามไม่ออกอ่ะ ช่วยกันอ่านหน่อยดิ

มาถึงฝั่งไทยแล้ว...ท่าเสด็จหนองคาย

ในตลาดท่าเสด็จ มีของขายมากมาย

ท่าเรือขนส่งสินค้าไปฝั่งลาว


ก่อนกลับ ขอชมทิวทัศน์ที่ท่าเสด็จตอนเช้า ๆ ค่ะ